๏ ประนมหัตถ์นมัสการขึ้นเหนือเศียร
ต่างประทีปโกสุมปทุมเทียนอันเป็นมิ่งโมลีสี่ทวีปก็ล่วงลับดับไกลนัยนา ฉันชื่อภู่ผู้ประดิษฐ์คิดสนองให้ประเสริฐเลิศล้ำด้วยคำคม
๏ ขอเจริญเรื่องตำรับฉบับสอน อันความชั่วอย่าให้มัวมีระคาย ผู้ใดเกิดเป็นสตรีอันมีศักดิ์ สงวนงามตามระบอบให้ชอบกลเป็นสาวแซ่แร่รวยสวยสะอาด แม้นแตกร้าวรานร่อยถอยราคา อันตัวต่ำแล้วอย่าทำให้กายสูง ค่อยเสงี่ยมเจียมใจจะไว้วาง
๏ จะนุ่งห่มดูพอสมศักดิ์สงวน จะผัดหน้าทาแป้งแต่งอินทรีย์จะเก็บไรไว้ผมให้สมพักตร์ เป็นสุภาพราบเรียบแลเจริญใครเห็นน้องต้องนิยมชมไม่ขาดถึงรูปงามทรามสงวนนวลอนงค์
๏ ประการหนึ่งซึ่งจะเดินดำเนินนาด อย่าไกวแขนสุดแขนเขาห้ามปราม อย่าเดินกรายย้ายอกยกผ้าห่ม อย่าพูดเพ้อเจ้อไปไม่สู้ดี ให้กำหนดจดจำแต่คำชอบ อย่านุ่งผ้าพกใหญ่ใต้สะดืออย่าลืมตัวมัวเดินให้เพลินจิต เป็นนารีที่ละอายหลายกระบวนอนึ่งเนตรอย่าสังเกตให้เกินนัก แม้นประสบพบเหล่าเจ้าชู้ชายอันนัยน์ตาพาตัวให้มัวหมองจริงมิจริงเขาเอาไปเล่าแช่
จำนงเนียรนบบาทพระศาสดาดังประทีปส่องทั่วทุกทิศาสู่มหาห้องนิพพานสำราญรมย์ขอประคองคุณใส่ไว้เหนือผมโดยอารมณ์ดำริรักชักภิปราย
ชาวประชาราษฎรสิ้นทั้งหลาย จะสืบสายสุริยวงศ์เป็นมงคลบำรุงรักกายไว้ให้เป็นผลจึงจะพ้นภัยพาลการนินทาก็หมายมาดเหมือนมณีอันมีค่าจะพลอยพาหอมหายจากกายนางดูเยี่ยงยูงแววยังมีที่วงหางให้ต้องอย่างกริยาเป็นนารี
ให้สมควรรับพักตร์ตามศักดิ์ศรี ดูฉวีผิวเนื้ออย่าเหลือเกินบำรุงศักดิ์ตามศรีมิให้เขินคงมีผู้สรรเสริญอนงค์ทรงว่าฉลาดแต่งร่างเหมือนอย่างหงส์ไม่รู้จักแต่งองค์ก็เสียงาม
ค่อยเยื้องยาตรยกย่องไปกลางสนาม เสงี่ยมงามสงวนไว้แต่ในทีอย่าเสยผมกลางทางหว่างวิถีเหย้าเรือนมีกลับมาจึงหารือผิดระบอบแบบกระบวนอย่าควรถือเขาจะลือว่าเล่นไม่เห็นควรระวังปิดปกป้องของสงวนจงสงวนศักดิ์สง่าอย่าให้อายจงรู้จักอาการประมาณหมายอย่าชม้ายทำชะม้อยตะบอยแลเหมือนทำนองแนะออกบอกกระแสคนรังแกมันก็ว่านัยน์ตาคม
๏ อันที่จริงหญิงชายย่อมหมายรัก แม้นจักรักรักไว้ในอารมณ์ ดังพฤกษาต้องวายุพัดโบก จงยับยั้งช่างใจเสียให้ดี อันตัวนางเปรียบอย่างปทุเมศ หอมผกาเกสรขจรขจาย ครั้นได้ชมสมจิตพิศวาสไม่อยู่เฝ้าเคล้ารสเที่ยวจดลอง แม้นชายใดหมายประสงค์มาหลงรักอันความรักของชายนี้หลายชั้น จงพินิจพิศดูให้รู้แน่เปรียบเหมือนคิดปริศนาอย่าไว้ใจอันแม่สื่ออย่าได้ถือเป็นบรรทัด แต่ล้วนดีมีบุญลูกขุนนาง อันร้ายดีมิได้เห็นเป็นแต่ว่า เหมือนเขาหลอกบอกลาภถึงเมืองไกล ทางไกลตาอุปมาเหมือนเสียเนตร เขาจะนำไปตายก็ตายพลัน อันแม่สื่อคือปีศาจที่อาจหาญอย่าเชื่อนักมักตับก็คับโครง อันความชั่วอยู่ที่ตัวของเราหมด จงฟังหูไว้หูกับผู้คน
๏ คิดถึงตัวหาผัวนี้หายาก คนสูบฝิ่นกินสุราพาจัญไร มักเบียดเบียนบีฑาประดาเสีย ไม่ทำมาหากินจนสิ้นตน ที่บางคนนั้นชั่วเป็นหัวไม้ ท่านจับได้ใส่ตรวจพรวดคอยาวเขาเป็นผัวตัวเมียเสียไม่ได้ ไปเสียลดเสียหลั่นพันธนา เพราะมีผัวชั่วไปจึงได้ยาก บ้างเล่นเบี้ยเสียถั่วมัวทนง มีข้าวของเคยผูกให้ลูกเต้าลงชั้นว่าผ้าผ่อนท่อนสไบ ยังแต่เมียเกลี่ยไกล่ไปขายซื้อ ครั้นรักผัวก็อย่ามัวด้วยลมโลม จะคิดทำอย่างไรก็ใช่ที่ ถ้าคนผู้รู้สึกสำนึกตัว จะหาคู่สู่สมภิรมย์หวัง ที่ชายดีนั้นก็มีอยู่ถมไปแต่ใจคนมักรนไปหาผิด ต้องเดือดดิ้นกินน้ำตาอยู่นองเนือง
มิใช่จักตัดทางที่สร้างสมอย่ารักชมนอกหน้าเป็นราคีเขยื้อนโยกก็แต่กิ่งไม่ทิ้งที่เหมือนจามรีรู้จักรักษากายพึ่งประเวศผุดพ้นชลสายมิได้วายภุมรินถวิลปองก็นิราศแรมจรัลผันผยองดูทำนองใจชายก็คล้ายกันให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่นเขาว่ารักรักนั้นประการใดอย่าทำแต่ใจเร็วจะเหลวไหลมันมักไพล่เพลงขุมเป็นหลุมพลางสารพัดเขาจะพูดนี้สุดอย่างมาอวดอ้างให้อนงค์หลงอาลัยจะคาดหน้าแน่ลงที่ตรงไหนอย่าควรให้ตามคำเขารำพันสุดสังเกตเท็จจริงทุกสิ่งสรรพ์คนทุกวันเชื่อมันยากปากมันโกงใครบนบานเข้าสักหน่อยก็พลอยโผงมันชักโยงอยากกินแต่สินบนต้องกำสรดโศกร้างอยู่กลางหนสืบยุบลเสียให้แน่อย่าแร่ไป
มันชั่วมากนะอนงค์อย่าหลงไหลแม้หญิงใดร่วมห้องจะต้องจนเหมือนเลี้ยงเหี้ยอัปรีย์ไม่มีผลแล้วซุกซนตีชิงเที่ยววิ่งราวให้พอใจชกตีเขาหมี่ฉาวแล้วบอกข่าวโศกศัลย์ถึงภรรยามีหาไม่เงินทองก็ต้องหาค่าฤชาก็ต้องเสียขายเมียลงแสนลำบากบอบนักอย่ามักหลงหน่อยก็ลงจำนำเขาร่ำไปก็เบียนเอาสิ้นสุดหาหยุดไม่อย่าไปไขว้เล่นไปจนโซโทรมคอยหารือร่วมภิรมย์เมื่อชมโฉมต่อล้มโครมแล้วก็ครวญหวนถึงตัวต้องรับหนี้ยากแค้นใช้แทนผัวจะยังชั่วด้วยไม่เฉยซะเลยใจจงระวังชั่วช้าอัชฌาสัยใช่วิสัยเขาจะชั่วไปทั่วเมืองครั้นได้คิดจิตตรอมออกผอมเหลืองสุดจะเปลื้องราคินจนสิ้นคาว
๏ เป็นสตรีสุดดีแต่เพียงผัวลงจนสองสามจืดไม่ยืดยาวถ้าคนดีมิได้ช้ำระยำยับ คงมีผู้ชูช่วยประคับประคองถ้าแม้นตัวชั่วช้ำระยำแล้ว เหมือนทองแดงแฝงเฝ้าเป็นราคี จงรักตัวอย่าให้มัวราคีหมองอย่าเอาผิดมาเป็นชอบประกอบใจ แม้นรู้จักรักร่างเป็นอย่างยิ่ง จงกำหนดอุตส่าห์รักษาทรง อันคำคมลมบุรุษนั้นสุดกล้า จงระวังตั้งมั่นในสันดาน เขารักจริงให้สู่ขอกับพ่อแม่ เขาไม่เลี้ยงไล่ขับจะอับอาย ข้างพ่อแม่ก็จะโกรธพิโรธร่ำด้วยท่านอายขายหน้าประชาชน ถ้าปะว่าแม่พ่อใจคอร้าย แม้นชายจนคนขัดพลัดเข้าตัว จะขึ้งโกรธโทษผู้ใหญ่ว่าไม่รัก ชั้นพ่อแม่ของตัวไม่กลัวเกรง ท่านเลี้ยงมาจะให้เป็นหอห้อง ครั้นลูกตัวชั่วถ่อยน้อยอารมณ์ แม้นลูกดีก็จะมีศรีสง่าถึงเพื่อนบ้านฐานถิ่นที่ใกล้ไกล
จะดีชั่วก็ยังกำลังสาวจะกลับหลังอย่างสาวสิเต็มตรองถึงขัดสนจนทรัพย์ไม่เศร้าหมองเปรียบเหมือนทองธรรมดาราคามีจะปัดแผ้วถางฝืนไม่คืนที่ยากจะมีผู้ประสงค์จำนงในถือทำนองแบบโบราณท่านขานไขจงอยู่ในโอวาทญาติวงศ์จะเพริศพริ้งสมสวาทเป็นราชหงส์อย่าลุ่มหลงด้วยอุบายของชายพาลเขาย่อมว่ารสลิ้นนี้กินหวานอย่าลนลานหลงละเลิงด้วยเชิงชายอย่าวิ่งแร่หลงงามไปตามง่ายต้องเป็นม่ายอยู่กับบ้านประจานตนจะจองจำตีโบยออกโหยหนไม่รักตนเราจึงต้องมาหมองมัวกลับซื้อขายคิดเอากับเจ้าผัวเราทำชั่วก็ต้องขายกายเราเองเพราะเราคิดผิดนักไม่เหมาะเหม็งใจตัวเองพาหลงไปลงตมหมายจะกองทุนสินกินขนมจึงตรอมตรมโกรธบุตรนี้สุดใจญาติวงศ์พงศาก็ผ่องใสก็มีใจสรรเสริญเจริญพร
๏ จงรักนวลสงวนนามห้ามใจไว้ คิดถึงหน้าบิดาและมารดรเมื่อสุกงอมหอมหวนจึงควรหล่น อย่าชิงสุกก่อนห่ามไม่งามดี อย่าคิดเลยคู่เชยคงหาได้ อย่าเกียจคร้านงานสตรีจงนิยม ถ้าแม้นทำสิ่งใดให้ตลอดเขม้นขะมักรักงานการของตน เมื่อเหนื่อยอ่อนนอนหลับอยู่กับบ้าน อะไรฉาวกราวเกรียวอย่าเหลียวแล ระวังดูเรือนเหย้าแลข้าวของ เห็นไม่มีแล้วอย่าอ้างว่าช่างมัน มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง ไม่ควรซื้อก็อย่าไปพิไรซื้อ เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าชรากาลด้วยชนกชนนีนั้นมีคุณอุ้มอุทรป้อนข้าวเป็นเท่าไร ถ้าเราดีมีจิตคิดอุปถัมถ์ จะปรากฎยศยิ่งสิ่งทั้งปวง เทพไทในห้องสิบหกชั้น ว่าสตรีนี้เป็นยอดยุพาพาล
๏ ที่บางนางนั้นก็ทำทุจริต เห็นพ่อแม่ยากไร้ไม่ไยดี เขาถามไถ่ว่ามิใช่เป็นพ่อแม่ ให้ตามหลังบังคับด้วยคำคม คนผู้นั้นครั้นตายวายชีวาตม์ ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันพระจันทราถ้าอยู่ไปในมนุษย์โลกเล่า ให้ยากยับอัปราอนาทร แม้จะมีเงินทองของทั้งหลายจะเกิดโจรราวีอัคคีภัยหญิงเช่นนี้ชายอย่าได้ไปร่วมรัก แต่พ่อแม่เจียวยังใจไม่การุญ ซึ่งสตรีที่ดีอย่าดูเยี่ยงแม้นร่วมรอยก็จะพลอยระยำมัง
อย่าหลงใหลจำคำที่ร่ำสอนอย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดีอยู่กับต้นอย่าให้พรากไปจากที่เมื่อบุญมีคงจะมาอย่างปรารมภ์อุตส่าห์ทำลำไพ่เก็บประสมจะอุดมสินทรัพย์ไม่อับจนอย่าทิ้งทอดเที่ยวไปไม่ได้ผลอย่าซุกซนคบเพื่อนไพล่เชือนแชอย่าเที่ยวพล่านพูดพลอประจ๋อประแจ๋ฟังให้แน่เนื้อความค่อยถามกันจะบกพร่องอะไรที่ไหนนั่นจงผ่อนผันเก็บเล็มให้เต็มลงอย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนานให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวานจงเลี้ยงท่านอย่าให้อดระทดใจได้การุณเลี้ยงรักษามาจนใหญ่หมายจะได้พึ่งพาธิดาดวงกุศลล้ำเลิศเท่าภูเขาหลวงกว่าจะล่วงลุถึงซึ่งพิมานจะชวนกันสรรเสริญเจริญสารได้เลี้ยงท่านชนกชนนี
มิได้คิดคุณท่านเท่าเกศีดูเป็นที่อายเพื่อนเบือนอารมณ์ท่านพูดแก้เกลื่อนกลับจะทับถมไม่ชื่นชมยกชูขึ้นบูชาคงไม่คลาดแคล้วนรกตกถลาทรมาน์หมกไหม้ในไฟฟอนเทพเจ้าท่านก็แช่งแสร้งสังหรณ์ยิ่งกว่าทำมารดรให้ร้อนใจคงฉิบหายมั่นคงอย่าสงสัยเพราะว่าใจหยาบช้าคิดทารุณจะเสื่อมศักดิ์เสียเช่นเป็นสถุลเนรคุณมิได้คิดอนิจจังจงหลีกเลี่ยงเสียให้พ้นคนขี้ถังดุจดังเอาทองแดงเข้าแฝงกุม
๏ จะสอนใจไว้ทุกสิ่งเป็นหญิงสาวให้ผันผ่อนเหมือนหนึ่งนอนในห่วงรุมอย่าทำนอกลักษณะจะเป็นโทษถึงจะรักรักให้ยืดอย่าจืดจาง จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น ไม่ควรพูดอื้ออึงขึ้นมึงกูแม้จะเรียนวิชาทางค้าขาย จึงซื้อง่ายขายดีมีกำไร เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปากแม้นพูดดีมีคนเขาเมตตาถึงชายใดเขาพอใจมาพูดเกี้ยวเมื่อไม่ชอบก็อย่าตอบเนื้อความตามถึงจะไปในพิภพให้จบทั่วจงอุตส่าห์ปกปิดให้มิดเม้น เมื่อจะจรนอนเดินดำเนินนั่ง อย่าเหม่อเมินเดินให้ดีมีอาฌาเห็นผู้ใหญ่หรือใครเขานั่งแน่น ค่อยวอนว่าข้าขอจรดลแม้นสมรจะไปนอนที่เรือนไหน ใครเห็นเข้าเขาจะเล่านินทานาง ถ้าจะนั่งก็นั่งระวังผ้า ยามสำรวลก็อย่าสรวลให้เมามัว เมื่อยามยิ้มก็ยิ้มไว้แต่ในพักตร์ อย่าเท้าแขนเท้าคางให้ห่างกาย จะแต่งตัวก็อย่ามัวแต่การแต่งใช่บ้านนอกขอกนามาแต่เยิง
ให้พ้นคาวข่าวชั่วมามั่วสุมจงสุขุมคิดแบ่งให้เบาบางตัดประโยชน์พี่น้องเขาหมองหมางจะไว้วางกริยาให้น่าดูอย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหูคนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจอย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัยด้วยเขาไม่เคืองจิตระอิดระอาจะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหาจะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความอย่าโกรธเกรี้ยวโกรธาว่าหยาบหยามมันจะลามเล่นเลยเหมือนเคยเป็นแต่ความชั่วอย่าให้ผู้ใดเห็นจึงจะเป็นคนดีมีปัญญาจงระวังในจิตขนิษฐาแม้นพลั้งพลาดบาทาจะอายคนอย่าไกวแขนปัดเช่นไม่เห็นหนนั่นแหละคนจึงจะมีปรานีนางอย่าหลับไหลลืมกายจนสายสางความกระจ่างออกกระจายเพราะกายตัวไม่อาฌาเขาจะพากันยิ้มหัวแม้นจะหัวหัวร่อพอสบายอย่ายิ้มนักเสียสง่าพาสลายอย่ากรีดกรายกรอมเพลาะเที่ยวเราะเริงอย่าทาแป้งจับกระเหม่าเข้าจนเหลิงทำเซาะเซิงเขาจะโห่วิ่งโร่ไป
๏เมื่อยามตรุษยามสงกรานต์มีงานหลวง ครั้นสิ้นเขตเทศกาลทำงานไป เมื่อไปเป็นชาววังจึงนั่งแต่ง ด้วยสำราญการอะไรนั้นไม่มี อยู่สถานบ้านช่องนั้นต้องคิด เผื่อมีผัวพลเรือนเหมือนกันนา รู้วิชาก็ให้รู้เป็นครูเขา มีข้าไทใช้สอยค่อยสบายการวิชาหาประดับสำหรับร่าง การมิดีมีชั่วมันกลัวเกรง คิดแต่ยากแต่จนเร่งขนขวายพออิ่มเช้าอิ่มเย็นไม่เป็นไรค่อยเสงี่ยมเจียมตนจนเสียก่อน อย่าเป้อเย้อพกใหญ่ออกให้เกิน อย่าอวดดีมีทรัพย์เที่ยวจับแจก ใครจะช่วยตัวเราก็เปล่าดาย เห็นผู้ดีมีทรัพย์ประดับแต่งของตัวน้อยก็จะถอยไปทุกวัน จงนุ่งเจียมห่มเจียมเสงี่ยมหงิมอย่านุ่งลายกรายกรุยทำฉุยไป
แต่งให้งามตามกระทรวงหาว่าไม่อย่าร่ำไรผัดหน้าทั้งตาปีแต่พอแจ้งเข้าก็จับกระจกหวีจะหาคู่ดูแต่ที่เจ้าพระยาให้รู้กิจการหญิงทุกสิ่งสาจะได้หาเลี้ยงกันจนวันตายจึงจะเบาแรงตนเร่งขวนขวายตัวเป็นนายโง่เง่าบ่าวไม่เกรงอย่าเอาอย่างหญิงโกงมันโฉงเฉงอย่าครื้นเครงขับร้องคะนองใจอย่าให้กายตกยากลำบากได้อย่าพอใจเชื่อช้ำเขาก้ำเกินค่อยผันผ่อนทีหลังเขาสรรเสริญละเมิดเมินหมิ่นนักมักจะอายทำเกี่ยวแฝกมุงป่าพาฉิบหายอย่ามักง่ายเงินทองของสำคัญอย่าทำแข่งวาสนากระยาหงันเหมือนตัดบั่นต้นทุนสูญกำไรอย่ากระหยิ่มยศถาอัชฌาสัยตัวมิใช่ชาววังไม่บังควร
๏ อย่าคบพวกหญิงพาลสันดานชั่วสุริย์ฉายบ่ายคล้อยเที่ยวลอยนวลพอรุ่งเช้าเฝ้าแต่มองส่องเกศีตรงการงานขี้คร้านเป็นกังวล ครั้นได้ยินเสียงกลองมาก้องหู วันนี้มีละครใครที่ไหนมา นั่งพินิจพิศโฉมประโลมหลงบ้างก็เห็นว่างามเลยตามไป บ้างก็รักข้างนักเลงเล่นเครงครื้นห่มเพลาะดำทำปลอมออกกรอมกาย ครั้นไปไปใจแตกลงแหกคอก ควาญหมอรอไม่ติดเห็นผิดเชิงใครจะห้ามปรามไว้ก็ไม่ฟัง ถือว่าตนเปรื่องฉลาดปราชญ์ประเปรียว พูดก็มากปากก็บอนแสนงอนนักเที่ยวรอนราญจนเพื่อนบ้านเขาระอาที่ส่วนตัวถึงจะชั่วออกล้นพ้น ไม่ทำมาหากินจนสิ้นแกน หญิงเช่นนี้เห็นไม่มีเจริญแล้ว ลงสูบฝิ่นกินเหล้าอยู่เมามาย มือก็ไวใจก็กล้าหน้าก็ด้าน แต่ผ้าขาดก็ไม่ปรารถนาเย็บ อันการเหย้าไม่เอาเป็นธุระคบกันได้แต่นิสัยพวกแชเชือน ชั้นจะยืมของใครเขาไม่เชื่อ ปากก็หวานเหมือนน้ำตาลเพชรบุรี แม้นใครไปสมทบเข้าคบค้า มีแต่ภัยให้ระยำทุกค่ำคืน หญิงไม่ดีนั้นก็มีอยู่หลายพวก ที่คนดีจะได้ดูให้รู้ครบ
ที่แต่งตัวไว้จริตผิดกระสวนเป็นเชิงชวนพวกเจ้าชู้เขารู้กลให้เวียนหวีได้วันละพันหนแต่งแต่ตนมิได้เว้นสักเวลายังไม่รู้เนื้อความเที่ยวถามหาแม้นรู้ว่าเจ้ากรับเต้นหรับไปดูจนปลงกรรมฐานเหงื่อกาฬไหลช่างกระไรหนอขนิษฐ์ไม่คิดอายเที่ยวกลางคืนคบเพื่อนเดือนหงายหงายพวกผู้ชายชักพาเที่ยวร่าเริงปะแตกปลอกต้ำผางวางจนเหลิงจะเปิดเปิงเข้าป่าไปท่าเดียวทำส่งเสียงเถียงดังให้กราดเกรี้ยวประจบเที่ยวรู้จักทุกพักตราเห็นเขารักกันไม่ได้ใจอิจฉานั่งที่ไหนให้นินทาเขาเป็นแดนสู้ปิดปากยกตนนี่สุดแสนก็เลยแล่นเข้าบ่อนนอนสบายให้แว่วแว่วอยู่ข้างทางฉิบหายไม่เสียดายอินทรีย์เท่าขี้เล็บจะเอาขวานไปถากไม่อยากเจ็บขี้เกียจเก็บพลัดวางได้กลางเรือนคิดแต่จะเที่ยวตลบไปคบเพื่อนจะคบคนพลเรือนก็เต็มทีด้วยตัวเหลือโป้ปดสบถถี่ข้าวของมีให้ไปไม่ได้คืนจนชั้นผ้าไม่ติดตัวแต่สักผืนใครจะชื่นชมชิดไปคิดคบจำจะบวกบอกใส่เสียให้จบหล่อนจะได้ไม่คบพวกคนพาล
๏ หญิงพวกหนึ่งนั้นขันทำปั้นเจ๋อไม่เจียมจนเลยว่าตนต่ำสันดานล้วนคุณลุงคุณปู่อยู่ทุกแห่ง พวกผู้ดีไม่นึกตรึกเจรจา ช่างพูดได้ไม่อายแก่ปลายลิ้น ถึงพูดไปใครเขาจะเห็นจริง ถึงจะอวดอ้างไปที่ไหนนั่นถ้าสันดานการผู้ดีคงมีรอย อันตัวต่ำแล้วอย่าทำให้เกินศักดิ์ เปรียบเหมือนเกลือเจือปนกับชลธี ที่บางคนจนยากไม่อยากทุกข์ อุตส่าห์แต่งแป้งขมิ้นไม่สิ้นคราว ทำไมแก่เงินทองของทั้งหลาย ถือว่ารูปกูงามไม่คร้ามจน สุภาษิตท่านประดิษฐ์ประดับไว้ ถึงเป็นองค์สุริย์วงศ์พระจักรี ทุกวันนี้มีทรัพย์เขานับหน้า ถึงงามพักตร์เขาจะรักเจ้าเพียงไร
เฝ้าเป้อเย้อหยิ่งเกินกับภูมิฐานเห็นที่ท่านเป็นขุนนางอ้างเข้ามาเที่ยวแอบแฝงพิงพาดวาสนาเป็นพี่น้องร่วมฟ้านั้นเห็นจริงเป็นคนสิ้นความคิดผิดผู้หญิงเขาว่าหยิ่งยกยศเหมือนมดตะนอยเขารู้ทันอยู่ว่าเช่นเจ้าเป็นหอยไม่กล่าวถ้อยเขาก็รู้ว่าผู้ดีเขาจะมักเหม็นปากเหมือนซากผีมันก็มีแต่จะจืดไม่ยืดยาวถือว่าสุขอยู่แก่ตาข้าเป็นสาวไม่สร้อยเศร้าสู้ตาประชาชนเห็นหาง่ายสารพัดไม่ขัดสนลงแต่งตนขายกินจนสิ้นดีว่าผู้ใดงามพักตร์สมศักดิ์ศรีแม้นไม่มีสินทรัพย์ก็ลับไปอย่าถือว่าตนงามตามวิสัยเขาคาดใจเสียว่าเจ้าขี้เกียจการ
๏ ที่บางคนเห็นที่ท่านมีทรัพย์ประกอบผูกลูกสะกดสร้อยสังวาลย์ เจ้าคนจนมันให้ร่ำจะทำบ้าง แต่ตัวจนอ้นอั้นตันในคอ หาทองแท้แก้ไขมันไม่คล่อง แต่ล้วนเนื้อสิบน้ำทองคำทวาย แพงไม่เบาเขายังกล้าอุตส่าห์ซื้อ ถึงจนยากอยากบำรุงให้รุ่งเรือง ก็สาสมกับอารมณ์ไม่เจียมศักดิ์ ผู้ดีว่าแล้วขี้ข้าก็พลอยตาม เขาจึงว่าหน้าสดปรากฎอยู่ เมื่อน้ำตื้นขืนจะพายไปฝ่ายเดียว เหมือนหิ่งห้อยน้อยสีหรี่หรุบรู่ เห็นไม่ถึงดอกอย่าโกยไปโดยแรง ๏ ยังมีพวกหนึ่งนั้นขยันยิ่ง เที่ยวยักย้ายร่ายชมภิรมย์รส จะรักไหนก็ไม่รักสมัครมั่น ชู้ต่อชู้รู้เรื่องเคืองระคางเพราะนารีมิได้ตรงจำนงหมาย เหมือนพวกนางโมราวิลาวัณย์ โอ้ใจนางอย่างนี้ก็มีมั่ง เพราะนิสัยใจขนิษฐ์เล่นปลิดโยน ต่างคนต่างก็เชือนออกเบือนเบื่อ อันผัวดีที่จะได้อย่าหมายเลย
แต่งประดับผิวพรรณในสัณฐานแลละลานล้วนสุวรรณอันลออเอาเยี่ยงอย่างอยากได้น้ำลายสอลงเที่ยวผลอไพล่เผลเพทุบายต้องเอาทองเสาชิงช้าน่าใจหายสายสร้อยสายหนึ่งก็ถึงสลึงเฟื้องผูกข้อมือแลงามอร่ามเหลืองจนทองเหลืองไม่ละจะกละงามทรลักษณ์เหลือตัวชั่วส่ำสามไม่มีความอายจิตสักนิดเดียวสมกับผู้ที่ไม่ตรึกนึกเฉลียวไม่ถึงเลี้ยวก็จะล่มไปจมแปลงจะแข่งสู้สุริยาอันกล้าแข็งเขาจะแสร้งสรวลว่าเป็นบ้ายศ เป็นผู้หญิงสองใจไม่กำหนดใครมาจดโผจับรับตะกางเล่นประชันเชิงลองทั้งสองข้างก็ขัดขวางหึงสาจะฆ่าฟันทำให้ชายเคืองแค้นแสนกระสันยื่นพระขรรค์ผัวให้กับไอ้โจรจนลือดังข่าวก้องดังกลองโขนจนมาโดนกันกระดากไม่อยากเชยต้องเป็นเรือขึ้นคานอยู่เฉยเฉยด้วยมากเชยหลายชู้เขารู้กล
๏ บ้างลอบเล่นเพลงยาวเมื่อคราวขัด ที่ไม่สู้รู้กลอนยังร้อนรน บ้างก็เล่นปริศนาเที่ยวหาของครั้นห่อเสร็จส่งให้กับชายชาญ ครั้นคิดคิดปริศนานั้นช้าเนิ่น ทำดื้อด้านหาญหักไม่รักงาม ชนิดนางอย่างนี้มีชุมนัก ต้องกินยาเข้าสุราพริกไทยปน รักสนุกครั้นได้ทุกข์แล้วถอยคิด เทพเจ้าท่านไม่เข้าด้วยคนร้าย ครั้นคิดล้างอย่างไรก็ไม่สูญ ทำอย่างไรมันก็ไม่มรณา ถ้ารู้ถึงพ่อแม่ต้องแก้ไข แล้วหาผัวตัวประจำเป็นสำเนา ที่ชายโหดโฉดเขลาเข้าไปรับ ดังแผ่นดินสิ้นหญ้าสุธาแพลงไม่คิดอายขายหน้านิจจาเอ๋ย ลูกของเขาเอาเป็นสิทธิ์เฝ้าชิดเชื้อ เหมือนเช่นเราเขาจะให้ก็ไม่รัก ถึงรูปร่างอย่างยุพินกินรี เป็นขนิษฐ์ชอบแต่คิดให้เป็นหนึ่ง เอ่ยว่ารักแล้วให้ได้ร่วมเรียงท่านเปรียบมาเหมือนหนึ่งตราราชสีห์ เป็นอนงค์แล้วก็คงจะเป็นเมีย ที่เกิดมาเป็นนารีไม่มีค่า เหมือนกรวดทรายปรายเล่นไม่เว้นวาง เมื่อไม่ถือตราภูมิไว้คุ้มห้าม แม้นรู้จักรักษาถือตราไว้ อย่าจับปลาสองหัตถ์จะพลัดพลาด จึงนับว่าคนดีไม่มีมัว เป็นผู้หญิงสิ่งใดจะล้ำเลิศถึงรูปทรงนงคราญจะพาลคลาย
๏ บ้างมีผัวตัวอยู่เป็นคู่ชื่น ทำรักซ้อนซ่อนสนิทปิดเนื้อความ ครั้นรู้ความถามไถ่ก็ไม่รับ พลอยประจบหลบความไปตามเพลงทำองอาจพลาดพลั้งลงทั้งคู่ไม่แปรดแปร้นแสนสลดเหมือนทศกัณฐ์ เคยที่นอนหมอนหนุนละมุนนิ่ม เล็นก็กัดหมัดก็กินจนสิ้นนวล ครั้นเห็นชู้คู่ชมภิรมย์รื่น จะพึ่งชู้ชู้ก็เพียบกรอบเกรียบใจ ตระลาการท่านถามเอาความชั่ว เขาเฮฮาหน้าสลดต้องอดทน ครั้นซักไซ้ไต่ถามได้ความชัด ถ้ารักชู้ก็ให้อยู่กับชู้ชายก็สาสมกับอารมณ์สตรีชั่ว ไปคบชู้ชู้ชักหักทั้งยืนที่ใครเห็นจะเมตตานั้นหายาก ก็เพราะเหตุตัวชั่วลือขจร ครั้นลำบากยากจิตสิได้คิด ใช่ไม่รู้เขาห้ามความถ้อยมี เออก็ใจเป็นไฉนนะน้องเอ๋ย ช่างไม่คร้ามความชั่วติดตัวตน มันเสียแล้วถึงจะฝืนไม่คืนศักดิ์ อันความชั่วติดตัวกว่าจะตาย ถึงบินออกนอกตำบลให้พ้นเขต ห้ามมันยากปากมนุษย์นี้สุดยาว ผู้ใดคิดผิดพลั้งเหมือนอย่างว่า ควรยับยั้งชั่งใจเสียให้ดี แม้นชั่วช้าใครว่าแล้วโกรธเขาจะวิบัติบาปกรรมซ้ำหนักไปแม้คนดีมีปัญญาถ้าไม่โกรธให้พ้นทุกข์สุขีเป็นศรีเมือง
ฝีปากจัดตอบต่อข้อนุสนธิ์เที่ยววานคนแต่งให้พอได้การให้ถูกต้องตามอารมณ์ประสมประสานบอกอาการเรื่องรักประจักษ์ความชวนกันเดินหลีกออกนอกสนามจนเลยลามลืมบ้านสถานตนเป็นโรครักเกิดมารศีรษะขนหมายประจญจะให้ดับที่อับอายจะปกปิดเปลวไฟไม่เห็นหายคงก่อกายขึ้นให้เห็นไว้เป็นตราก็อาดูรพูนเกิดสหัสสาเป็นเวราบาปนั้นไม่บรรเทาเอาลูกไปมุ่งหมกยกให้เขาพอปัดเป่าความอายให้หายแคลงมันช่างหลับตาสนิทไม่คิดแหนงมาแอบแฝงเอามันเป็นว่านเครือเหมือนไม่เคยพบปะจะกละเหลือนึกว่าเนื้อบุญธรรมกรรมไม่มีมันขายพักตร์สารพัดจะบัดสีแต่เช่นนี้แล้วไม่ปองประคองเคียงไม่ควรถึงอย่าให้ถึงกับปากเสียงเป็นคู่เคียงของตัวว่าผัวเมียไม่พอที่เสียนวลไม่ควรเสียย่อมมีเบี้ยปรับไหมวิสัยนางจะเกิดมาทำไมให้หมองหมางจะเอาอย่างนางโมราหรือว่าไปคนจึงลามเลยลวนมากวนได้จะคุ้มภัยให้พ้นมีคนกลัวจับให้คงลงให้ขาดว่าเป็นผัวถ้าชายชั่วร้างไปมิใช่ชายสุดประเสริฐก็แต่ใจไม่เสื่อมสลายก็จะกลายส่งสวยด้วยใจงาม
ยังหาอื่นเข้าประคองเป็นสองสาม จนเลยลามเป็นระฆังดังขึ้นเองเขาเฆี่ยนขับตีด่าว่าข่มเหงเพราะผัวเองจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเขาจับได้ชายชู้ดูน่าขันต้องโศกศัลย์เศร้าใจอยู่ในตรวนไปนอนทิมกรากกรำเฝ้ากำสรวลแลแต่ล้วนลูกความออกหลามไปก็ไม่ชื่นชมชิดพิศมัยจะพึ่งผัวตัวก็ไม่เมตตาตนข้างตัวกลัวก็บอกออกนุสนธิ์แทบจะด้นดำดินให้สิ้นอายจึงจำกัดศักดินาราคาขายมันเบื่อหน่ายขายกลับเอาทรัพย์คืนอยู่กับผัวร่วมใจว่าไม่ชื่นต้องกล้ำกลืนชลนัยน์อาลัยวอนมีแต่ปากแช่งอนงค์ส่งสลอนที่เคยนอนนั่งสบายว่าไม่ดีแต่มันผิดเสียถนัดต้องบัดสีชั่วหรือดีได้ยินสิ้นทุกคนมันจึงเลยไหลฉ่ำดังน้ำฝนทำซุกซนจนได้ยากลำบากกายจะลงรักทองปิดไม่มิดหายเปรียบเหมือนกายกามีราคีคาวคงบอกเหตุรู้ว่าใช่กาขาวไม่แกล้งกล่าวค่อนว่าแก่นารีถูกตำราแล้วอย่าโกรธพิโรธพี่ถ้าหลีกลี้เลิกเล่นไม่เป็นไร เช่นตัวเราผู้แต่งแถลงไข ถึงตกใต้เทวทัตเพราะขัดเคือง เห็นประโยชน์ตัดชั่วในตัวเปลื้อง อย่าแค้นเคืองคำข้าขออภัย
๏ เป็นสตรีมิใช่ชายเสียดายศักดิ์ อันความดีมีอยู่ดูจำไว้ จะมีคู่ก็ให้รู้ปรนนิบัติ อย่าคิดร้ายย้ายแยกทำแปลกปลอมอย่าคบชู้สู่สมนิยมหวังเขารักหลอกหยอกเล่นดอกเช่นนี้ธุระอะไรจะให้มันเสียของเพราะเชื่อใจภรรยายิ่งกว่าเกลอจะมีจิตพิศวาสไม่คลาดเคลื่อน แม้นนอกจิตคิดร้ายหมายประจญจงกันภัยในเล่ห์เสน่หา เอาความสัตย์ตัดตั้งปฏิญาณจงซื่อต่อภัสดาสวามี อย่าให้มีราคินที่กินใจถึงที่สุดทดลองก็ทองแท้หญิงเดี๋ยวนี้แม้นมีสัตยา
๏ แม้นเขารักแล้วอย่าดื้อทำถือจิต คำนับนอบสามีทุกวี่วัน ยามสิ้นแสงสุริยาอย่าไปไหน ระวังดูปูปัดสลัดที่นอน ถ้าแม้นว่าภัสดาเข้าไสยาสน์ เขาเหนื่อยเหน็บเจ็บปวดในทรวงทรงประพฤติกายสายสมรจะนอนหลับ นอนให้ดีมีสติสิริเรา จงรีบฟื้นตื่นก่อนภัสดา จึงหุงข้าวต้มแกงแต่งสำรับ ทั้งกระโถนคนทีขัดสีไว้ อีกน้ำท่าอย่าให้ผงลงไปกวน แม้นรู้ว่าสามีจะไปไหน ประจงปลุกภัสดาอย่าช้านาน จงระวังนั่งดูอยู่ใกล้ใกล้ อย่าให้ต้องร้องตะโกนโพนทะนาอยู่จนผัวรับประทานอาหารแล้ว อย่ากินก่อนภัสดาดูน่าชัง
จะปลูกรักเรรวนหาควรไม่ อย่าพอใจรักชั่วให้มัวมอมจงซื่อสัตย์สุจริตคิดถนอมมโนน้อมเสน่หาต่อสามีไม่จีรังกาลดอกบอกโฉมศรีถ้าแม้นมีข้าวของต้องบำเรออันเงินทองผัวสิทำสน่ำเสนอควรบำเรอลูกผัวของตัวตนเพราะแม่เรือนร่วมใจจึงได้ผลจะพาตนยากยับอัประมาณอย่าให้มาปนปะจงประหารถึงเกิดการยากเข็ญไม่เป็นไรจนชีวีศรีสวัสดิ์เจ้าตัดษัยอุปไมยเหมือนอนงค์องค์สีดาด้วยนางแน่อยู่ในสัจอธิษฐาน์ภัสดาก็ยิ่งรักขึ้นหนักครัน
เร่งเกรงผิดกลัวใจใหญ่มหันต์ อย่าดุดันดื้อดึงตะบึงบอนจุดไต้ไฟเข้าไปส่องในห้องก่อนทั้งฟูกหมอนอย่าให้มีธุลีลงจงกราบบาททุกครั้งอย่าพลั้งหลงช่วยบรรจงนวดฟั้นให้บรรเทาอย่ากลิ้งกลับมือไม้ไปป่ายเขาอย่าซมเซาอยู่จนแจ้งแสงพยับน้ำล้างหน้าหาไว้ให้เสร็จสรรพจัดประดับเทียมทำให้น้ำนวลให้ผ่องใสสวยตาดูน่าบ้วนจงใคร่ครวญพิเคราะห์ให้เหมาะการแต่ยังไม่ตื่นพรากจากสถานให้ลุกขึ้นรับประทานโภชนาเผื่ออะไรมันขาดจะเรียกหาจงอุตส่าห์ตั้งใจระไวระวังนางน้องแก้วเจ้าจงกินเมื่อภายหลังเขาจะรังเกียจใจดูไม่ดี
๏ ถ้าผัวทำราชการพระผ่านเกล้า ทั้งล่วมปัดจัดแจงแต่งให้ดี อุตส่าห์ทำบำเรอเสนอสนอง ปรนนิบัติภัสดาอย่าราคิน
๏ เกิดเป็นหญิงให้เห็นว่าเป็นหญิง เป็นหญิงครึ่งชายครึ่งอย่าพึงใจ แม้นผัวเดือดเจ้าจงดับระงับไว้ เขาเป็นไฟเราเป็นน้ำค่อยพรำพรม อันโมโหโทโสไม่อดได้ ที่ชาวบ้านท่านไม่รู้จะรู้ความ เอาใจผัวผัวจะรักเจ้าหนักหนา แม้นผัวทุกข์ขุกไข้ไม่เสบย จงแย้มสรวลชวนปลอบให้ชอบชื่นค่อยถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงฤทัย จะพูดจาสารพัดประหยัดปาก ความสิ่งไรในจิตจงปิดงำ การสิ่งไรที่ชั่วผัวเขาห้าม อย่าดึงดื้อถือตนเป็นคนเชือน
๏ แม้นพิโรธโกรธขึ้งกับภัสดา พึ่งข่มขืนกลืนไว้ในอุรัง จึงจะว่านารีมีความคิด ถึงใครรู้อยู่ว่าคมต้องชมเรา การนินทาด่าผัวนั้นชั่วถ่อย ถึงร้างหย่าหาใหม่วิสัยมี บ้างทำกลัวตัวสั่นแต่ต่อหน้า ครั้นผัวเดินเกินเลยเฉยเฉียดไป ทำเสงี่ยมเจียมตัวผัวไม่เห็น ครั้นว่าเขาเข้าใจรู้ไหวพริบ
๏ บางนารีที่เป็นนางใจร้ายกาจ สำรากก้องร้องแทรกแหกกระแซง ขู่คำรนบ่นว่าด่าประชด ลุอำนาจไม่อาจขยาดตัว ทรมานภัสดาน่าสังเวช ยังมิหนำซ้ำป่าวเหล่านารี ข้างฝ่ายผัวใจดีมิได้ว่า ดูเหมือนแม่กับลูกผูกขึ้นชู ช่างกระไรใจคอมันอดได้ จึงยอมตัวกลัวเมียจนหัวมุด เหมือนเช่นเราแล้วไม่ต้องให้ตีตบจะถีบถองเสียให้ยับไล่ขับกัน
๑___สุภาษิตซึ่งประดิษฐ์มาไว้นี้ ใช่จะแกล้งแต่งคำมารำพัน จะร่ำไปสักเท่าไรก็ไม่หมด อุตส่าห์ตรองตริตรึกนึกจำเนียร พอเป็นเรื่องสำหรับดับทุกข์โทษ เป็นตำหรับแบบฉบับไปยืดยาวข้อไหนชั่วแล้วอย่ามัวไปขืนทำ เก็บประกอบเอาแต่ชอบในเรื่องความอย่าฟังเปล่าเอาแต่กลอนสุนทรเพราะไว้เป็นแบบสอนตนพ้นราคี ให้สุขีศรีเมืองเลื่องลือฟุ้ง เป็นที่ชื่นเช่นอย่างนางสีดา
เคยเข้าเฝ้าสู่วังนรังศรีหมากบุหรี่หาใส่ให้ไปกินตามทำนองมิ่งมิตรเป็นนิจสินจึงจะภิญโญยศปรากฎไป
อย่าทอดทิ้งกริยาอัชฌาสัย ใครเขาไม่สรรเสริญเมินอารมณ์อย่าพอใจขึ้นเสียงเถียงประสมแม้นระดมขึ้นทั้งคู่จะวู่วามความในใจก็จะดังออกกลางสนามอย่าทำตามใจนักมักจะเคยหมั่นนำพาการเรือนอย่าเชือนเฉยอย่าวายเวยลามลวนให้กวนใจเห็นเริงรื่นหัทยาจึงปราศรัยแม้นสิ่งไรเขาไม่ชื่นอย่าขืนทำอย่าพูดมากเติมต่อซึ่งข้อขำอย่าควรนำแนะออกไปนอกเรือนประพฤติตามแบบแผนให้แม้นเหมือนจะเอ่ยเอื้อนโอภาให้น่าฟัง
อย่านินทาว่าผัวตัวลับหลังอุตส่าห์บังกลบเกลื่อนที่เงื่อนเงารู้ปกปิดมิดโทษไม่โฉดเขลาหนึ่งผัวเขาเล่าก็เห็นว่าเป็นดีเป็นคนน้อยปัญญาเสียราศีชายที่ดีรู้กำพืดก็จืดไปถึงตีด่าก็นิ่งไม่ติงไหวก็ด่าให้ไม่ดังตั้งกระซิบดูเหมือนเช่นปากว่าตาขยิบก็ต้องริบต้องร้างระคางแคลง
หมิ่นประมาททุ่มเถียงส่งเสียงแข็งตะคอกแกล้งข่มขี่ให้ผัวกลัวให้สามีอัปยศลงหดหัวมัดมือผัวผูกแขนแค่นเฆี่ยนตีดูเหมือนเปรตเวทนาน่าบัดสีที่ไม่มีภัสดาให้มาดูนิ่งให้เมียเฆี่ยนด่าน่าอดสูมิได้สู้รบรับสัประยุทธ์ดูเหมือนไม่มีจิตผิดบุรุษน้อยมนุษย์ที่จะเป็นได้เช่นนั้นคงสู้รบโต้เต็มให้เข้มขันร้างหย่ามันเสียให้ค้างอยู่กลางคัน
ล้วนแต่มีเยี่ยงอย่างดังเสกสรรคนทุกวันอย่างนี้มีอาเกียรณ์ขี้เกียจจดเหน็ดเหนื่อยเมื่อยมือเขียนตั้งความเพียรผูกข้อต่อเรื่องราวเป็นประโยชน์แก่สตรีที่สวยสาวในเรื่องราวสุภาษิตลิขิตความจงจดจำบุญบาปอย่าหยาบหยามประพฤติตามห้ามใจเสียให้ดีจงพิเคราะห์คำเลิศประเสริฐศรีกันบัดสีคำค่อนคนนินทาหอมจรุงกลิ่นกลั้วทั่วทิศาในใต้หล้าหมายประคองตัวน้องเอย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น